การรายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อช่วงกลางดึกคืนวานนี้ ตามเวลาประเทศไทย สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง หลังจากแพทย์ตรวจพบความผิดปกติในระหว่างทรงเข้ารับการถวายการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังบักกิงแฮมไม่ได้ระบุว่า พระองค์ทรงประชวรด้วยมะเร็งชนิดใด แต่สื่อของอังกฤษระบุเบื้องต้นว่าไม่ใช่มะเร็งต่อมลูกหมาก

“สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3” ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเตรียมรักษาพระอาการต่อมลูกหมากโต

คณะแพทย์ที่ถวายการรักษาได้แนะนำให้พระองค์ทรงเลื่อนพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่ต้องพบปะสาธารณชนออกไปก่อน หลังจากนี้ สมเด็จพระราชินีคามิลลา และเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักร จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั่วไปแทนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์

ส่วนพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐ หรืองานเอกสารทางการที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ในฐานะพระประมุข รวมถึงการให้นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทประจำสัปดาห์ จะยังดำเนินเป็นไปตามปกติ

หลังแถลงการณ์จากพระราชวังบัคกิงแฮทออกมาไม่นาน สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ได้รายงานข่าวด่วนถึงการตรวจพบมะเร็งของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับประชาชนในกรุงลอนดอน หลังจากที่สำนักพระราชวังอังกฤษออกแถลงการณ์ พวกเขาก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับข่าวนี้ เพราะถือเป็นข่าวร้าย แต่ก็ขอให้สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเข้มแข็ง และหวังว่าพระองค์จะทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้น

ขณะที่ เซอร์ ลินด์เซย์ ฮอยล์ ประธานสภาสามัญชนของรัฐสภาอังกฤษ ในฐานะผู้แทนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ 3โดยขอให้พระองค์ตอบสนองต่อการรักษาและขอให้พระวรกายฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

นอกจากประชาชนและรัฐสภาสหราชอาณาจักรแล้ว บรรดาผู้นำชาติต่างๆ จากหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ และประเทศในเครือจักรภพ ได้โพสต์ข้อความถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผ่านบัญชีออนไลน์ส่วนตัว

สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 พระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1948 เป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระองค์ทรงมีพระนามอย่างเป็นทางการว่า ชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ

ในปี 1951 เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชมารดาได้รับการสถาปนาพระอิสสริยยศขึ้นเป็นประมุขของแผ่นดิน ทำให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีตำแหน่งเป็นรัชทายาท

จากนั้นเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 9 พรรษา ก็ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าชายแห่งเวลส์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และยังทรงเข้ารับการศึกษาภาษาเวลส์ที่มหาวิทยาลัยอาเบอริสต์วิธ ในเวลส์

สำหรับชีวิตส่วนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเสกสมรสกับเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ หรือ เจ้าหญิงไดอานาแห่งเวลส์ ณ มหาวิหารเซนต์ปอล ในปี 1981 และทรงมีพระโอรส 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์ และเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ ก่อนที่การอภิเษกสมรสจะสิ้นสุดลงในปี 1996 หลังจากทรงแยกทางกัน เจ้าหญิงไดอานายังคงเป็นสมาชิกของราชวงศ์ต่อไป แต่ 1 ปีต่อมา เจ้าหญิงไดอานา ประสบอุบัติเหตุรถชนในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนสิ้นพระชนม์

ในปี 2005 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้อภิเษกสมรสกับ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ ก่อนที่คามิลลาจะได้รับการสถาปนาให้เป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์

จนในปี 2022 หรือกว่า 2 ทศวรรษหลังการอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีแถลงการณ์ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีของพระองค์ โดยมีใจความว่า คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ จะทรงเป็นที่รู้จักในฐานะสมเด็จพระราชินี

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 หรือ 17 เดือน ก่อนที่จะมีการประกาศว่าพระองค์ทรงประชวรเป็นโรคมะเร็ง

การประกาศอาการประชวรของราชวงศ์อังกฤษเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตัดสินพระทัยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการวินิจฉัยมะเร็งของพระองค์ให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อหวังสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็งให้มากขึ้น

ทั้งนี้ อาการประชวรที่เกิดขึ้นได้สร้างความกังวลว่าจะส่งผลต่อสถาบันกษัตริย์และราชวงศ์อังกฤษหรือไม่

แมทธิว เดนนิสัน นักเขียนและนักชีวประวัติราชวงศ์อังกฤษ ให้ความเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลเรื่องอาการประชวรมีประโยชน์และเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการปล่อยให้สื่อหรือฝ่ายต่างๆ คาดการณ์เอาเองไม่ใช่สิ่งที่ดี

การประกาศอาการประชวรด้วยโรคมะเร็งของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สอดคล้องกับความรู้สึกและพระราชปณิธานของพระองค์ ที่ทรงต้องการให้ราชวงศ์เปิดกว้างและทันสมัยมากขึ้น แม้ว่าจะไม่เผยแพร่รายละเอียดทั้งหมดก็ตาม

ขณะเดียวกัน นักเขียนรายนี้ยังระบุว่า การประกาศว่ากษัตริย์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งไม่ได้ส่งผลต่อราชวงศ์อังกฤษ เพราะสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังคงทรงงานได้จากที่ประทับ รวมถึงประชาชนจะเข้าใจว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงต้องการพักฟื้นพระวรกาย นอกจากพระอาการประชวรของพระเจ้าชาร์ลส์และอนาคตของราชวงศ์อังกฤษแล้ว

อีกหนึ่งประเด็นที่สื่อและผู้ติดตามราชวงศ์อังกฤษให้ความสนใจ คือ การเดินทางมาเยี่ยมพระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ หลังจากที่เกิดรอยร้าวในราชวงศ์เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว

ไมเคิล โฮลเดน ผู้สื่อข่าวราชสำนักของรอยเตอร์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าชายแฮร์รีจะเสด็จกลับมาหาพระบิดาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากการประกาศการวินิจฉัยโรคมะเร็งของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสัญญาณแรกของการปรับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพระองค์ หลังจากความสัมพันธ์ของกษัตริย์แห่งอังกฤษและเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ตึงเครียดตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมปีที่แล้ว

หลังเจ้าชายแฮร์รีทรงเขียนและตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำของพระองค์ ที่มีชื่อว่า Spare หรือ ตัวสำรอง ความยาว 416 หน้า หลายฝ่ายเรียกว่าเป็นการเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังอันอื้อฉาวของราชวงศ์อังกฤษ

เนื้อหาที่ถูกพูดถึงในหนังสือและเป็นที่สนใจของสาธารณชน มีตั้งแต่เรื่องราวด้านมืดอย่างการใช้ยาเสพติด การสังหารศัตรูในฐานะทหาร ไปจนถึงการกล่าวหาเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ พระเชษฐาว่าทรงทำร้ายร่างกายพระองค์ระหว่างการโต้เถียงเรื่องเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์

นอกจากจะสั่นสะเทือนภาพลักษณ์ของราชวงศ์แล้ว สิ่งที่สั่นคลอนที่สุด คือความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าชายแฮร์รี

โดยสำนักข่าวดิ อีโคโนมิกส์ ไทม์ รายงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 2023 ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงตัดสินพระทัย ขับไล่เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ออกจากตำหนักฟร็อกมอร์ คอทเทจ จนทั้งคู่ไม่มีที่ประทับในสหราชอาณาจักรและต้องไปอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แทน เนื่องจากในหนังสือเล่มดังกล่าว เจ้าชายแฮร์รี ล้ำเส้นด้วยการกล่าวหาว่าสมเด็จพระราชินีคามิลลา เป็น 'นางมารร้าย'

นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้ผู้สื่อข่าวราชสำนักของรอยเตอร์ ออกมาให้ความเห็นว่าการเสด็จเยือนอังกฤษของเจ้าชายแฮร์รีที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์และพระราชบิดา

"9 ของไหว้ตรุษจีน" เช็กอาหารคาว-หวาน-ผลไม้มีอะไรบ้าง พร้อมความหมาย

โปรแกรมฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบ 4 ทีม พร้อมเวลาแข่งขัน

เพื่อนแฉ! "ช่างกิต" ไม่รู้ "น้องพร" มีผัว หลงหนักถึงขั้นมาหากันทุกวัน

By admin