วันที่ 2 มิถุนายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกร้องปมถือหุ้นไอทีวีว่า กกต.ยังไม่ได้เรียกตนเข้าไปให้ข้อมูล พร้อมย้ำอีกครั้งว่าไม่กังวล หากกระบวนการตัดสินดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ ขณะเดียวกันยังมั่นใจในหลักฐานของตัวเอง และยังมั่นใจอีกว่าจะไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีนักวิชาการออกมาให้ความเห็นทางกฎหมาย ว่า หากถูกศาลตัดสินพ้นส.ส. จะไม่ส่งผลการรับรองส.ส.นั้นพ้นไปด้วย
“เท่าที่ดูทั้งนักวิชาการ และอดีต กกต.หลายๆ ท่าน ก็บอกว่ามีกฎหมายที่สามารถพูดได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าใครพลาดอะไรแล้วที่เหลือต้องเลือกตั้งใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้เห็นรายละเอียดตรงนั้น แต่ยังมั่นใจในรายละเอียดของตนเอง และมั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้”
"จตุพร" ชี้รัฐบาลแห่งชาติไม่มีอยู่จริง ชี้ "พิธา" ไปไม่ถึงนายกฯ เจอ ส.ว.ดับฝัน
วิษณุ ปัดตอบข้อกฎหมาย พิธา ขาดคุณสมบัตินั่งนายกฯ ทำเลือกตั้งโมฆะทั้งประเทศ คำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท
โดยหลังจากนี้หากกตต.รับรองผลการเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว ก็จะเปิดประชุมสภา และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่กระดุมเม็ดแรกตอนนี้คือ การรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. ซึ่งมีกรอบดำเนินการช้าสุดวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งถ้าติดกระดุมเม็ดแรกไม่ได้ ดำเนินการช้าไปก็ทำให้การเปิดประชุมสภาไม่ได้ ส่งผลกระทบไปถึงการเลือกประธานสภา การจัดตั้งรัฐบาล จึงเรียกร้องให้ทางกกต.ดำเนินการให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของว่าที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกล มีถูกร้องเรียนจากการเลือกตั้ง ที่จะส่งผลต่อทำให้กกต.ไม่ประกาศรับรองส.ส.และอาจทำให้ตัวเลขส.ส.ของพรรคก้าวไกลไม่ได้ 151 คน นายพิธา ระบุว่า ขณะนี้มีนางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ซึ่งถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 แต่ยังไม่ได้เห็นรายละเอียดข้อกฎหมายว่า มีประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งตัวเองก็ต้องให้กำลังใจทั้งลูกพรรค และนางสาวชลธิชา หวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี และเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชนตามที่หวังไว้
ส่วนกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ ที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวีตว่าจบแล้วนั้น นายพิธา อธิบายว่า คำว่า “จบแล้ว” ในความหมายของนพ.ชลน่าน ไม่ได้หมายถึงจบที่ตัวบุคคล แต่หมายถึงความขัดแย้งที่ได้รับการแก้ไข พร้อมย้ำว่า ความชัดเจนของตำแหน่งประธานฯ น่าจะทราบในช่วงกลางเดือนมิถุนายน